สคร.4 จังหวัดสระบุรี ชูประเด็น วันอาสาฬหบูชา (5 ก.ค.63), วันเข้าพรรษา (6 ก.ค. 63) ในปีนี้ตรงกับวันงดดื่มสุราแห่งชาติ รวมทั้งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ทั้งขายส่งและขายปลีกทั่วราชอาณาจักร ตลอด 24 ชั่วโมง
วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา ในปีนี้ตรงกับวันงดดื่มสุราแห่งชาติ พุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่ จะเข้าวัด ถือศีล ปฏิบัติธรรม และเป็นวันงดสุราแห่งชาติ ซึ่งเป็นวันสำคัญในการรณรงค์งดดื่มสุรา การละเว้นการเสพสุราเป็นข้อหนึ่งในศีล 5 การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นำมาซึ่งความประมาทเพราะเมาแล้วขาดสติยั้งคิด การเมาแล้วขับขี่พาหนะอาจทำให้บาดเจ็บ พิการหรือถึงแก่ชีวิตได้ และยังมีโทษต่อตับ ระบบประสาท ระบบไหลเวียนโลหิต และทำให้ตายก่อนวัยอันควร อีกทั้งตามกฎหมายตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 และประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีได้กำหนดห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันพระใหญ่ 5 วัน ได้แก่ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา
คณะรัฐมนตรี ได้กำหนดให้วันเข้าพรรษาของทุกปี เป็น “วันงดดื่มสุราแห่งชาติ” โดยในปีนี้นายกรัฐมนตรี มอบคำขวัญเนื่องในวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ประจำปี 2563 คือ “สุรา พาคิดน้อย ด้อยความปลอดภัย” เชิญชวนคนในครอบครัวและคนรอบข้างอย่างน้อย 3 คน ลด ละ เลิก ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตลอดช่วงเข้าพรรษา 3 เดือน ผู้ที่ต้องการเลิกดื่มเข้าระบบการบำบัดรักษา ณ โรงพยาบาลใกล้บ้าน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขควรสร้างกำลังใจเมื่อกลับสู่ชุมชน ให้เลิกดื่มได้อย่างถาวร ในช่วงระยะที่ผ่านมา มีการห้ามจำหน่ายสุรา ส่งผลชัดเจนคือ ลดจำนวนคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนถนนได้นับร้อยคน ประหยัดเงินให้คนไทย 2 - 3 หมื่นล้านบาทกลับคืนสู่ครอบครัวไทย ซึ่งประเทศไทยเป็นชาติแรกๆ ในโลกที่มีวันงดดื่มสุราระดับชาติ และกำหนดให้วันเข้าพรรษาเป็นวันงดดื่มสุราแห่งชาติ สคร.4 สระบุรีเชิญชวนให้คนไทยงดดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเข้าพรรษา ซึ่งนับเป็นวัฒนธรรมอันดีงามของสังคมไทย จึงหวังว่าปีนี้ คนไทยจะร่วมงดแหล้าเข้าพรรษามากขึ้น
สำหรับผู้ประกอบการ ควรทราบว่า กฎหมายได้กำหนดให้การขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ 2 ช่วงเวลา คือช่วงเวลา 11.00 – 14.00 น. และ 17.00 - 24.00 น.ของทุกวัน แต่กรณีวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาทั้ง 5 วัน ห้ามขายตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ สถานประกอบการร้านค้าควรจัดทำป้ายงดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แสดงเด่นชัดบริเวณหน้าร้านเพื่อเป็นการแจ้งลูกค้าให้ทราบ หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ มาตรา 39 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมไปถึงประเด็นการขายให้กับบุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ รวมถึงบุคคลซึ่งมีอาการมึนเมาจนครองสติไม่ได้ หากฝ่าฝืนจะมีโทษทางอาญา คือ จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงการส่งเสริมการขายเพื่อเพิ่มยอดขายหรือ การชักจูงใจให้ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยการชิงโชค ชิงรางวัล แจก แถม ให้ หรือแลกเปลี่ยนกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกทั้ง ในช่วงระยะนี้ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ประกาศผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid – 19) จึงต้องเฝ้าระวังการกระทำผิดกฎหมายเป็นพิเศษ
ปัจจุบันการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและกฎหมายมีมากขึ้น ดังนั้นหากพบการกระทำผิดสามารถร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบในการดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนกระทำผิดได้ เช่น สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 จังหวัดสระบุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และ https://tas.go.th เป็นต้น
หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน่วยงานสาธารณสุขใกล้บ้านหรือโทรสายด่วน กรมควบคุมโรค 1422
กลุ่มโรคไม่ติดต่อ
Facebook : https://www.facebook.com/dpc4saraburi