แพทย์หญิงบุศณี มุจรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จ.อุบลราชธานี กล่าวถึง สภาพอากาศที่ร้อนจัดในช่วงนี้ หลายพื้นที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาติดต่อกันหลายวัน ทำให้ประชาชนมีความเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคลมแดด หรือฮีทสโตรก จากสถานการณ์และกรณีตัวอย่างผู้ป่วยโรคลมแดด(Heat stroke) เขตสุขภาพที่ 10 จังหวัดอุบลราชธานี ในปีงบประมาณ 2567 พบผู้ป่วย 4 ราย (อุบลราชธานี,ศรีสะเกษ,ยโสธร และอำนาจเจริญ จังหวัดละ 1 ราย) อายุระหว่าง 15-59 ปี อาชีพเกษตรกรที่ต้องทำงานกลางแจ้ง บางคนมีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เส้นเลือดสมองตีบ พื้นที่เกิดเหตุส่วนมาก กลางทุ่งนา อากาศร้อน ช่วงเวลาที่เกิดเหตุ ระหว่าง 11.00-15.00น.

โดยสาเหตุ เกิดจากการที่สัมผัสอากาศที่ร้อนจัด เช่น การทำงานกลางแจ้ง หรือออกกำลังกายอย่างหนัก หรือการสวมใส่เสื้อผ้าที่หนาหรือสวมทับหลายตัวจนเหงื่อระเหยและระบายความร้อนออกได้ยาก ในบริเวณที่มีอากาศร้อน อาจมีการดื่มแอลกอฮอล์ร่วมด้วย เมื่อร่างกายมีอุณหภูมิสูง สูงเกิน 40 องศาเซลเซียส ร่างกายไม่สามารถปรับตัวได้ ทำให้สมองในส่วนที่ควบคุมอุณหภูมิของร่างกายเกิดความผิดปกติ ส่งผลกระทบต่อระบบสมอง ระบบการไหลเวียนโลหิต และ เกิดภาวะขาดสารน้ำ รวมทั้งมีการทำงานผิดปกติของ อวัยวะอื่นๆที่สำคัญ เช่น ไต ตับ หัวใจ ปอด

ทั้งนี้ ในช่วงที่อากาศร้อนจัดขอแนะนำให้ประชาชน โดยเฉพาะ ผู้สูงอายุและเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอแล้วต้องทำงานกลางแจ้ง ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือ น้ำหวาน ชา กาแฟ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง หรือ โรคปอด . ผู้ที่มีภาวะอ้วน ควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าหลวมและเนื้อบางเบาแต่ปกปิดไม่ให้ผิวหนังสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง ควรกางร่มและอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเท ดื่มน้ำมากขึ้นให้เพียงพอ อย่างน้อย 2-3 ลิตรในแต่ละวัน โดยจิบน้ำบ่อยๆโดยไม่รอให้กระหายน้ำ รวมถึงควรผสมเกลือแร่เพื่อชดเชยเกลือแร่ในร่างกายที่เสียไป หากจำเป็นต้องทำกิจกรรมหรือทำงานกลางแจ้งสามารถใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตามข้อพับเพื่อลดอุณหภูมิในร่างกายไม่ให้สูงเกินไปจนเกิดการระเหยของน้ำออกจากร่างกายอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจมีอาการใจสั่น หน้ามืด ความดันโลหิตต่ำ บางรายร่างกายอาจเสียสมดุลฉับพลันเพราะขาดน้ำและเกลือแร่ จนมีอาการชัก เกร็ง หรือถ้าอาการร้ายแรงจะเกิดระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลวจนเสียชีวิตในที่สุด

---