สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา
Responsive image

13 เมษายน “วันผู้สูงอายุแห่งชาติ” สคร.9 แนะบุตรหลานดูแลใกล้ชิด ป้องกันพลัดตกหกล้ม

         สคร.9 นครราชสีมา มีความห่วงใยประชาชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือผู้สูงวัย ซึ่งเป็นวัยที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษเพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดการพลัดตกหกล้ม เนื่องจากอายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้ความสามารถลดลง เช่น การมองเห็นไม่ชัด สายตาผิดปกติ มีปัญหาการทรงตัว เดินเซ เคลื่อนไหวลำบาก การรับรู้ที่ช้าลง การมีโรคประจำตัว เป็นต้น การพลัดตกหกล้มสามารถป้องกันได้ด้วย "รู้ ปรับ ขยับเพิ่ม" รู้ความเสี่ยง โดยปรับพฤติกรรมบ้านที่อยู่อาศัย และสิ่งแวดล้อม เพิ่มกิจกรรมทางกาย ออกแรงต้าน และส่งเสริมให้ผู้สูงอายุออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน ขอความร่วมมือลูกหลานร่วมกันสำรวจสิ่งแวดล้อมหรือจุดเสี่ยงภายในบ้านหรือชุมชน เช่น พื้นทางเดิน ถนน หรือที่สาธารณะ ร่วมกันปรับและแก้ไขจุดเสี่ยงให้มีความปลอดภัย และสนับสนุนกิจกรรมทางกายของผู้สูงอายุ เพื่อสุขภาพที่ดี อยู่เป็นที่พึ่งให้แก่ลูกหลานได้อย่างยาวนาน

         นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป ร้อยละ 20 หรือมากกว่า 12 ล้านคน พบปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญคือการพลัดตกหกล้ม โดย 1 ใน 3 ของผู้สูงอายุหกล้มทุกปี หรือปีละประมาณ 4 ล้านคน โดยร้อยละ 20 ของผู้สูงอายุที่หกล้มเกิดการบาดเจ็บ การบาดเจ็บมีตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงรุนแรง ทำให้ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ต้องพึ่งพาผู้อื่น ส่งผลกระทบต่อภาระของครอบครัว สังคม เศรษฐกิจตามมา สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการลื่น สะดุด หรือก้าวพลาดบนพื้นระดับเดียวกัน การพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุ จึงเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญที่นับวันจะมีโอกาสเพิ่มขึ้น

         เนื่องในวันที่ 13 เมษายนของทุกปี ถือเป็น “วันผู้สูงอายุแห่งชาติ” ซึ่งตรงกับวันขึ้นปีใหม่ไทย หรือวันสงกรานต์ เป็นช่วงเทศกาลสำคัญและเกี่ยวข้องกับสถาบันครอบครัวไทย เป็นช่วงที่ประชาชนจะเดินทางกลับบ้านไปเยี่ยมเยียนผู้สูงอายุ จึงขอให้ลูกหลานหันกลับมาดูแลเอาใจใส่ผู้สูงอายุทั้งร่างกายและจิตใจ แสดงความรักความกตัญญู รวมถึงตระหนักถึงความสำคัญของผู้สูงอายุ จึงขอความร่วมมือให้ลูกหลานร่วมกันสำรวจสิ่งแวดล้อมหรือจุดเสี่ยงภายในบ้านหรือชุมชน เช่น พื้นทางเดิน ถนน หรือที่สาธารณะ ร่วมกันปรับและแก้ไขจุดเสี่ยงให้มีความปลอดภัย และสนับสนุนกิจกรรมทางกายของผู้สูงอายุ เพื่อสุขภาพที่ดี อยู่เป็นที่พึ่งให้แก่ลูกหลานได้อย่างยาวนาน

         นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน กล่าวต่อไปว่า การพลัดตกหกล้มสามารถป้องกันได้ด้วย "รู้ ปรับ ขยับเพิ่ม" รู้ความเสี่ยง โดยปรับพฤติกรรมบ้านที่อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อม ขยับเพิ่มกิจกรรมทางกาย ออกแรงต้าน ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุหรือผู้สูงวัยออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน มีส่วนร่วมทางสังคม เพิ่มกิจกรรมทางกาย ลดพฤติกรรมเนือยนิ่ง และต้องสังเกตสิ่งแวดล้อมเพื่อความปลอดภัย เช่น ทางเดินต่างระดับ ลื่น เป็นหลุม ขรุขระ เป็นต้น ทั้งนี้ ปัญหาการเกิดอุบัติเหตุพลัดตกหกล้มในผู้สูงวัยสามารถป้องกันได้ หากผู้ดูแลเข้าใจถึงความเสี่ยง ปฏิบัติตนตามแนวคิด "รู้ ปรับ ขยับเพิ่ม" และหากพบเห็นผู้สูงอายุหกล้ม ห้ามเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บกรณีเกิดเหตุและพบอวัยวะผิดรูปหรือเจ็บขยับไม่ได้ ให้ตั้งสติและโทรแจ้งสายด่วน 1669 ทันที สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

ดาวน์โหลดเอกสารเพิ่มเติม : เอกสาร

ข่าวสารอื่นๆ