กรมควบคุมโรค เดินหน้ายกระดับความปลอดภัยทางน้ำ เพื่อสร้างความเท่าเทียมและความเสมอภาคทางสังคม ตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของมติสหประชาชาติและสมัชชาอนามัยโลก ที่ขอให้ประเทศสมาชิกทั่วโลกเร่งดำเนินงานป้องกันการจมน้ำ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กบกพร่องทางสติปัญญาและเด็กออทิสติกซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง
วานนี้ (10 พฤศจิกายน 2568) นายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า การจมน้ำยังคงเป็นปัญหาสำคัญทั้งในระดับโลกและประเทศไทย โดยประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำเฉลี่ยปีละ 3,687 คน หรือวันละ 10 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จำนวน 645 คน (ข้อมูลค่าเฉลี่ยปี 2558 - 2567) ทั้งนี้ แม้ประเทศไทยจะสามารถลดการเสียชีวิตจากการจมน้ำในเด็กลงได้ถึงร้อยละ 64 แต่ตัวเลขยังคงสูงกว่าค่าเป้าหมายตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จากข้อมูลในช่วงที่ผ่านมาพบว่า เด็กที่มีความต้องการพิเศษ โดยเฉพาะเด็กออทิสติกและเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการจมน้ำ เนื่องจากมีการรับรู้ถึงอันตรายต่ำหรือไม่เข้าใจถึงผลลัพธ์ที่ตามมาของการเข้าใกล้แหล่งน้ำ การหลงใหลในน้ำทำให้มุ่งตรงไปยังแหล่งน้ำโดยไม่สนใจความเสี่ยง และพฤติกรรมหลงทาง โดยงานวิจัยจากต่างประเทศระบุว่าเด็กกลุ่มนี้มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากการจมน้ำสูงกว่ากลุ่มเด็กทั่วไปถึง 3 เท่า ในประเทศออสเตรเลีย และ 160 เท่า ในประเทศอเมริกา
“เพื่อขยายผลการป้องกันการจมน้ำให้ครอบคลุมกลุ่มเด็กเปราะบาง กรมควบคุมโรคได้ร่วมกับสมาคมครูการศึกษาพิเศษไทย มูลนิธิช่วยเหลือเด็กประเทศไทย หรือ Save the Children (Thailand) สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ (สพฐ.) และผู้เชี่ยวชาญ จัดทำหลักสูตรแนวปฏิบัติเพื่อป้องกันการจมน้ำในเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาและเด็กออทิสติก โดยได้จัดอบรมเชิงปฏิบัติการนำร่องในวันนี้ให้กับเครือข่ายที่มีความสมัครใจและต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้ คือ ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการว่ายน้ำเพื่อเอาชีวิตรอด มีประสบการณ์การสอนในเด็กหรือประชาชนทั่วไป และมีส่วนร่วมหรือเป็นทีมผู้ก่อการดีป้องกันการจมน้ำ (MERIT MAKER) หรือเป็นครูในสถานศึกษา (สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ) จำนวน 30 คน จาก 10 จังหวัด โดยมีทั้งภาคทฤษฎีและฝึกปฏิบัติในสระว่ายน้ำ การอบรมจัดขึ้น ณ โรงแรมเอเชีย แอร์พอร์ต จังหวัดปทุมธานี ประกอบด้วยทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติในสระว่ายน้ำ โดยมี แพทย์หญิงศิริรัตน์ สุวรรณฤทธิ์ ผู้อำนวยการกองป้องกันการบาดเจ็บ เป็นประธานเปิดการอบรมฯ” นายแพทย์มณเฑียรกล่าวเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้บุคลากรจากหน่วยงานสาธารณสุข ภาคท้องถิ่น ภาคการศึกษา มูลนิธิ สมาคม จิตอาสา และประชาชนที่สนใจจากทั่วประเทศ เข้าร่วมรับฟังภาคทฤษฎีผ่านระบบออนไลน์ จำนวนกว่า 500 คน เพื่อให้สามารถนำองค์ความรู้และทักษะไปใช้ขับเคลื่อนงานป้องกันการจมน้ำในกลุ่มเด็กพิเศษในพื้นที่ของตน
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคมีแผนพัฒนาหลักสูตรนี้ต่อยอดสู่ระบบออนไลน์ (e-Learning) เพื่อให้สามารถขยายผลได้อย่างรวดเร็วทั่วประเทศ และสร้างความปลอดภัยทางน้ำให้แก่เด็กทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองป้องกันการบาดเจ็บ หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
*******************************
ข้อมูลจาก : กองป้องกันการบาดเจ็บ/สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2568






