สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 ขอนแก่น
Responsive image

14 พ.ย. 66 วันเบาหวานโลก สคร.7 จ.ขอนแก่น เผยผู้ป่วยเบาหวานมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี แนะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยง

 

สมาพันธ์เบาหวานนานาชาติ (International Diabetes Federation: IDF) กำหนดให้วันที่ 14 พฤศจิกายน ของทุกปีเป็นวันเบาหวานโลก (World Diabetes Day) โดยในปี พ.ศ. 2566 นี้ ได้กำหนดประเด็นรณรงค์ คือ Diabetes :  Know your risk, Know your response เบาหวาน รู้ว่าเสี่ยง รู้แล้วต้องเปลี่ยน เพื่อมุ่งเน้นการรู้ถึงความเสี่ยงของโรคเบาหวานและภาวะแทรกซ้อน ให้ความสำคัญของการเข้าถึงข้อมูล ความรู้ และการดูแลที่ถูกต้องให้แก่ประชาชนทั่วไปและกลุ่มเสี่ยง

นายแพทย์สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ข้อมูลจาก IDF Diabetes Atlas ทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคเบาหวานมากถึง 537 ล้านคน คาดว่าภายในปี 2573 จะเพิ่มขึ้นเป็น 643 ล้านคน และภายในปี 2588 จะเพิ่มมากถึง 783 ล้านคน ส่วนสถานการณ์โรคเบาหวานในประเทศไทย ข้อมูลจากรายงานสถิติสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ประเทศไทยพบอุบัติการณ์โรคเบาหวานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยในปี 2566 มีผู้ป่วยรายใหม่ เพิ่มขึ้น 3 แสนคนต่อปี ในปี พ.ศ. 2565 มีผู้ป่วยโรคเบาหวานสะสมจำนวน 3.3 ล้านคนเพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2564 มากถึง 1.5 แสนคน สำหรับการคัดกรองผู้ป่วยรายใหม่ในปี 2566 พบว่า การคัดกรองผู้ป่วยโรคเบาหวานในประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไป ยังไม่ได้รับการคัดกรองโรคเบาหวานมากถึง 5 ล้านคนจากเป้าหมายทั่วประเทศ 22 ล้านคน
ดังนั้นประชาชนที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ควรตรวจคัดกรองโรคเบาหวานปีละ 1 ครั้ง ค่าระดับน้ำตาลในเลือดควรน้อยกว่า 100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ซึ่งหากตรวจพบตั้งแต่เริ่มแรกและรักษาได้เร็วจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงและอาจถึงแก่ชีวิตได้

นายแพทย์สมาน กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคเบาหวาน เป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่เกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่มีการผลิตฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ หรือร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งหากปล่อยให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นระยะเวลานานโดยไม่ได้รับการรักษา จะส่งผลให้อวัยวะเสื่อมและการทำงานล้มเหลว ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะแทรกซ้อนที่ตา ไต หลอดเลือด หัวใจ และหลอดเลือดสมอง เป็นต้น

ซึ่งสาเหตุสำคัญของโรคเบาหวาน เกิดจากพฤติกรรมการดำเนินชีวิตในปัจจุบันที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคมากมาย เช่น การรับประทานอาหารรสหวาน มัน เค็ม มากเกินไป ทานผักผลไม้น้อย ไม่ออกกำลังกาย สูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งการมีความเครียดเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังละเลยการตรวจสุขภาพซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะอ้วนและจะส่งผลให้เกิดโรคตามมามากมาย เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และโรคเบาหวาน เป็นต้น

การป้องกันและลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน แนะนำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงโดยการหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีรสหวาน มัน เค็ม ลด ละ เลิกสูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทำจิตใจให้ไม่เครียด นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน และควรตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และหากมีอาการ ปัสสาวะบ่อยและมาก กระหายน้ำ หิวบ่อย กินจุ น้ำหนักลด เป็นแผลง่ายและหายยาก และชาตามปลายมือปลายเท้า ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาต่อไป

 

 

*****************************************
ข้อมูล : กองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค
ข่าว : กลุ่มสื่อสารความเสี่ยงฯ สคร.7 จ.ขอนแก่น
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2566


ข่าวสารอื่นๆ