วันนี้ (11 เมษายน 2568) นายแพทย์นิติ เหตานุรักษ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้กล่าวถึงการประชุมสำคัญของไทย เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 ที่ตนิเป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “การบูรณาการเครือข่ายสาธารณสุขอาเซียนด้านการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินและภัยคุกคามสุขภาพ” ภายใต้กรอบความร่วมมือ ASEAN Health Cluster 2 และเตรียมความพร้อมขับเคลื่อนศูนย์ ACPHEED for Response and Risk Communication ระหว่างวันที่ 25 – 26 มีนาคม 2568 ณ โรงแรมเบสต์เวสเทิร์น พลัส แวนด้า แกรนด์ จังหวัดนนทบุรี 

นายแพทย์นิติ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ได้ร่วมกับเครือข่ายที่เกี่ยวข้องร่วมกันกำหนดทิศทางการดำเนินงานของประเทศไทย ในฐานะประธานและสมาชิก ASEAN Health Cluster 2: Responding to All Hazards and Emerging Threats และส่งเสริมความร่วมมือภายใต้กลไกสาธารณสุขอาเซียน เพื่อเตรียมความพร้อมในการดำเนินงานศูนย์ ACPHEED ด้านการตอบโต้และสื่อสารความเสี่ยง ขณะเดียวกันได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการดำเนินงานในกิจกรรมที่ประเทศไทยทำหน้าที่เป็นประเทศนำในอาเซียน ได้แก่ การดำเนินการพัฒนาศักยภาพทางห้องปฏิบัติการ การดำเนินงานเพื่อยุติปัญหาเอดส์และวัณโรค รวมถึงการดำเนินงานเพื่อพัฒนาศักยภาพนักระบาดวิทยาภาคสนาม เป็นต้น

นอกจากนี้ ในเวทีดังกล่าวที่ประชุมยังได้ร่วมอภิปรายและแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับบทบาทและความท้าทายของประเทศสมาชิกใน ASEAN Health Cluster 2 ซึ่งได้ข้อเสนอแนะเชิงสร้างสรรค์ อาทิ การพัฒนาเครื่องมือสื่อสารและกลไกติดตามกิจกรรมอย่างมีระบบ การประสานความร่วมมือกับกรมอาเซียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการจัดกิจกรรมร่วมเพื่อเสริมสร้างความต่อเนื่องและความชัดเจนของการดำเนินงาน รวมถึงรับทราบสถานะและความคืบหน้าของการจัดตั้งศูนย์ ACPHEED ด้านการตอบโต้และสื่อสารความเสี่ยง 

ซึ่งในระยะเตรียมการได้มีการมุ่งเน้นการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร โครงสร้าง และกระบวนการทำงานให้มีความสอดคล้องกับบทบาทในระดับภูมิภาค เพื่อให้ศูนย์ ACPHEED สามารถทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของอาเซียนในการตอบสนองต่อภัยสุขภาพฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การประชุมครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของประเทศไทยในการสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบสาธารณสุขทั้งในประเทศและระดับภูมิภาค พร้อมทั้งยกระดับความเชื่อมโยงของภาคีอาเซียนสู่อนาคตที่มั่นคง ปลอดภัย และพร้อมรับมือกับภัยคุกคามสุขภาพในทุกมิติ

โดยการประชุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมจากหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั้งระดับส่วนกลางและส่วนภูมิภาค อาทิ กองระบาดวิทยา กองโรคติดต่อทั่วไป สคร.1, 2, 5, 6, 8, 9, 10–12 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กองการต่างประเทศ กองยุทธศาสตร์และแผนงาน และสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข

---